แต่งเพลงให้แตกต่างด้วย ความยาววรรค

ในตอนนี้จะพูดถึงองค์ประกอบของการ แต่งเพลง ส่วนเนื้อเพลงต่อไปครับ คือ "ความยาวของวรรค"

ปล. ถ้าใครยังไม่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนๆเรื่อง วรรค และ ความเสถียรย้อนกลับไปที่ Link นี้
แต่งเพลงให้เข้าถึงอารมณ์ด้วย Stable Unstable
แต่งเพลง จำนวนวรรค ก็สำคัญ

ความยาวของวรรค

ในสองวรรคติดกัน
ถ้า วรรคมีจำนวนคำ "เท่ากัน" จะเป็น "เสถียร"
ถ้า วรรคมีจำนวนคำ "ไม่เท่ากัน" จะ "ไม่เสถียร" 

ในกรณี "ไม่เสถียร" ถ้าวรรคหลัง "สั้น" กว่าวรรคก่อนหน้า จะให้ความรู้สึกต้อง มีต่อ ยังไม่จบ
ถ้าวรรคหลัง "ยาว" กว่าวรรคก่อนหน้า จะมีความรู้สึกเสถียรกว่าแบบ "สั้นกว่า" แต่ก็ยัง "ไม่เสถียร" นะครับ และจะเป็นการเน้น ส่วนที่เกินออกมาให้เด่นชัดยิ่งขึ้น

ผลของความยาวของวรรค

1. 1. ช่วยในเรื่องสนับสนุนอารมณ์ของเพลง ดังที่กล่าวไว้ก่อนๆ
      สองวรรคติดกันเท่ากัน = "เสถียร" ใช้กับเนื้อหาที่เป็น ความจริง ชัดเจน
      สองวรรคติดกันไม่เท่ากัน = "ไม่เสถียร" ใช้กับเนื้อหาที่ไปทางเน้นอารมณ์ความรู้สึก

1. 1. ช่วยเน้นประเด็นสำคัญ ประเด็นหลักของเพลง (Main Idea) อย่างที่กล่าวไว้ด้านบน ถ้าวรรคหลังยาวกว่าวรรคก่อนหน้า ส่วนที่เกินจะถูกเน้นขึ้นมา ทำให้วรรคนี้เด่นชัดขึ้นมา เพราะเกินจากที่คนฟังคาดหวังไว้
      ปล. ในส่วนนี้ถึงจะดูเป็นการเน้นขึ้นมา อาจดูเหมือนน่าจะเป็น "เสถียร" แต่เป็น "ไม่เสถียร" เพราะมันก็มีส่วนเกินขึ้นมา ผู้ฟังก็คาดหวังว่าควรจะมีต่อให้มันสมดุลและสมบูรณ์เช่นกัน
      

1. 1. ช่วยสร้างความคาดหวังของผู้ฟัง คือ ถ้าวรรคหลังสั้นกว่าวรรคก่อนหน้า คนฟังที่ฟังจะมีความคาดหวังว่าจะต้องมีต่อ เคลื่อนไปข้างหน้า

1. ช่วยให้เกิดความแตกต่าง เด่นชัด ของเพลง เช่น ใน Verse มีจำนวนแต่ละวรรคประมาณ 7-8 คำ พอมา Bridge มีเหลือ 3-4 คำ คนฟังก็จะรู้สึกถึงความแตกต่างเปลี่ยนแปลง น่าสนใจมากขึ้น

ยกตัวอย่างนะครับ เช่น

เพลง ยาพิษ ของ Bodyslam
"... เอะอะก็ว่ารัก
เอะอะก็คิดถึง
แต่เธอไม่เคยซึ้งไม่เคยเข้าใจ"

  จะเห็นว่าพอฟัง สองวรรคแรกมี 5 คำ พอมา วรรค 3 มี 9 คำ ทำให้วรรคนี้เด่นชัดขึ้นมา นอกจากนั้นยังให้ความรู้สึกควรมีต่อเพราะ "ไม่เสถียร" แถมถ้ารวมกับเรื่อง จำนวนวรรค มี 3 วรรค เป็นจำนวนคี่ ท่อนนี้จึง "ไม่เสถียร" มากทีเดียว ทำให้เกิดแรงผลักดัน คนฟังคาดหวังจะฟังต่อไป หรือในด้านอารมณ์ต้องบอกว่า อารมณ์ขึ้น กำลังมันส์ล่ะครับ ต้องต่อครับท่อนนี้