การวิเคราะห์ Keyword และคู่แข่ง

เนื้อหาเรื่อง SEO จาก Course Optimizing a Website for Google Search ของ University of California, Davis ใน Coursera.org

ในหัวข้อนี้เราจะวิเคราะห์ Keyword เพื่อนำ Keyword มาใช้บนเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มการเข้าเว็บไซต์ของเรา เป้าหมายคือการเลือก Keyword ที่ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์เรา

การวิเคราะห์ Keyword

เป้าหมายคือ การเลือก Keyword ที่ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์เรา โดยคัดเฉพาะออกมา (ส่วนที่เหลือหรือเกินอาจเก็บไว้ใช้อัพเดทในอนาคต)

โดยการวิเคราะห์คู่แข่ง นอกจากจะทำให้รู้ว่า Keyword ไหนมีการแข่งขันสูงแล้ว เรายังสามารถบอกให้กับลูกค้า (เจ้าของเว็บที่จะทำ SEO) ว่าจะเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่ ยังไง ต้องลงทุนเท่าไหร่

จุดสำคัญคือ เลือก Keyword ที่ดี โดยคำนึงถึง

1. เหมาะสมกับเว็บไซต์ (Relevancy)
2. เป้าหมายของผู้ค้นหา (Intent)
3. Competitiveness (การแข่งขัน)

ขั้นที่ 1 เลือก Keyword ที่ใช่

เลือก Keyword หรือ Phrase วลี มาใส่ใน Spreadsheet หรือ excel เพื่อดูว่า Keyword ไหนตรงกับจุดประสงค์เป้าหมายของผู้ค้นหา ตรงกับวัตถุประสงค์ของเว็บเรา และมีปริมาณการเข้า (Volume) ที่ดี

สามารถดูข้อมูล Keyword ได้จาก Search Console หรือ Google Analytics หรือ Tools อื่น ๆ

ขั้นที่ 2 ดูเว็บคู่แข่งที่ติดอันดับแล้ว

นำ Keyword มาค้นด้วย Google แล้วเลือกมาสัก 1-5 อันดับแรก และ 10 มาดู (ถ้า Search ด้วย Google อาจจะต้อง Log out หรือเข้าด้วย Incognito) หรือสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Moz หรือ ahref เพื่อหาว่า Keyword ที่เราเลือกมานี้มีเว็บไหนติดอันดับบ้างอย่างไร มี DA (Domain Authority) และ PA (Page Authority) เท่าไหร่ แล้วนำมารวบรวมใน Excel ไฟล์แยกตาม Keyword

ขั้นที่ 3 วางแผนการแข่งติดอันดับ

ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ จากเว็บที่ติดอันดับ Keyword จากขั้นที่ 2 เพื่อนำมาวิเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็น Title Tag ว่ามีความเกี่ยวโยง เกี่ยวข้องกับ Keyword ยังไง ใช้ Semantics คำเหมือนอย่างไร

เลือกดูความยากว่าจะสามารถแข่งได้จาก Brand หรือ PA ของเว็บคู่แข่ง ก็จะทำให้รู้ว่าคู่แข่ง Keyword ไหนยากง่าย คำใกล้เคียงที่เว็บเหล่านั้นใช้คืออะไร ควรเลือกคำไหน

นอกจากนี้เรายังเจาะเข้าไปดูระดับ Page โดยดู Page จากเว็บคู่แข่งที่ติดอันดับโดยดูดังนี้

1. Page ที่ติดอันดับเป็น Homepage หรือไม่
2. H1 tag Optimize รึยัง
3. Title tag Optimize รึยัง
4. Content มีคุณภาพมั้ย
5. มีข้อมูลประเภทไหนบ้าง Text, รูป, วีดีโอ มั้ย
6. Site Authority ดีมั้ย DA/PA
7. มีการแชร์ไปที่ social network ไหนหรือไม่โดยใช้เครื่องมือ SEO ในการตรวจสอบ

ในขั้นนี้เรายังสามารถทำ Report รายงานกับผู้จ้างเพื่อนำเสนอความยากง่าย cost หรืออะไรต่าง ๆ เพื่อดูว่าเราจะต้องทำอะไรยังไงถึงจะแข่งได้ขนาดไหน

ขั้นที่ 4 นำผลที่ได้มาใช้

เมื่อวิเคราะห์ได้แล้ว ก็จะได้ว่าเราควรจะทำยังไงให้เข้ามาตรฐานเกณฑ์ ที่จะทำให้เราติดหน้าแรกของ Google ทำให้ดีกว่าหรือปานกลางจากเว็บคู่แข่งที่เราวิเคราะห์

นอกจากนั้นก็สามารถเลือก Keyword ที่แข่งได้ง่ายกับเว็บคู่แข่งที่เราสามารถแข่งได้

หากต้องการจะต่อสู้กับ เว็บที่ใหญ่ มี Brand ใหญ่ มี DA/PA สูง ถ้าไปใช้ Keyword ตรง ๆ Volume สูงคงจะสู้ไม่ได้ จำเป็นจะต้องสร้าง Keyword รอบข้างเคียง ใช้คำใกล้เคียงหรือเฉพาะเจาะจง เพื่อทำให้เกิด Traffic คนเข้าเว็บแล้วเมื่อรวม ๆ กันภายในเว็บจะช่วยดัน Keyword หลักที่เราอยากแข่งกับเว็บใหญ่ได้ ลองเลือกจาก Keyword ที่เว็บใหญ่ได้อันดับไม่ค่อยดีหรือมี Volume traffic ต่ำก่อนก็ได้ และใช้ใช้ Keyword ใหญ่ ๆ เป็น Category ก็จะช่วยให้ดันขึ้นไปด้วยได้ง่ายขึ้น

Keyword map

เมื่อเราคัดเลือก Keyword ได้แล้วควรทำ keyword map ไว้ คือการทำตารางว่า Keyword ที่เราเลือกใช้ไปรึยัง กับ page ไหน โดยใช้ Excel ประโยชน์คือ

1. สามารถกำหนดกลุ่มของ Page เพื่อดูว่าอันไหนเป็น keyword หลัก keyword เฉพาะ
2. สามารถกำหนด Theme ให้กับ keyword ได้ชัดเจน
3. ป้องกันการใช้ Keyword ซ้ำ
4. วางแผนอนาคตว่าจะทำเนื้อหาอะไรต่อไปจาก Keyword
5. รายงานให้ลูกค้าได้เห็นว่า จะ Focus ที่ Keyword ไหนยังไง และสามารถให้เห็นความคืบหน้า
6. สามารถดูความก้าวหน้า Performance ว่าติดอันดับอะไรยังไงได้

เรียกได้ว่าการทำ Keyword Mapping จะช่วยให้เห็นตารางว่าเราดำเนินการตาม Keyword ไหนยังไง แล้วนำมาช่วยให้มีการปรับปรุงวิเคราะห์ รายงานผลได้อีกด้วย

ประโยชน์ของการวิเคราะห์ Keyword และ คู่แข่ง

1. ทำให้เราได้เห็นภาพและข้อมูลเชิงลึกของลักษณะ Content ของคู่แข่งเพื่อที่เราจะได้นำมาจัดการกับ Content ของเราได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะลักษณะของ Content ประเภทของ Content
2. รู้ว่าจริง ๆ แล้ว คู่แข่งของเราคือใคร จากที่อาจจะรู้จากการคาดเดา แต่หากได้ทำ List ทำตารางวิเคราะห์จริง ๆ อาจจะไม่ตรงกับที่เราคาดเดาได้
3. เข้าใจ User ผู้อ่านมากขึ้นว่า ต้องการอะไร อย่างไร จากการที่ดู Content ของคู่แข่ง
4. สามารถ Target ตั้งเป้า User หรือผู้ชมได้ถูกต้องว่าผู้ชมประเภทไหนชอบอะไร กลุ่มไหนแชร์เยอะ และแชร์ใน Social Network ไหน