ลักษณะเสียงร้อง ในการบันทึกเสียง

ในการบันทึกเสียงร้องเพลง เราต้องเข้าใจประเภทและลักษณะของเสียงร้องก่อน เพื่อให้เลือกเพลง เลือกลักษณะเสียงในการบันทึก ซึ่งบทความนี้จะพูดถึงประเภทของเสียงในการร้องเพลง จากวิชา Vocal Recording Technology ของ edx.org

เสียงร้องเพลง หรือ Musical Voice

1. Singing

การร้องเพลงคือการ ส่งลมจากปอด ออกไปใหเส้นเสียงสั่น โดยมี ฟัน ลิ้น ริมฝีปาก ในการออกเสียงคำ

2. Vocal Range ความกว้างของเสียง

โดยปกติคนจะสามารถออกเสียงได้ตั้งแต่
F2 (เส้นเสียง 87 รอบ/วินาที) -  C6 (ประมาณ 1100 รอบ/วินาที)
การรู้ช่วง Range ของนักร้อง ทำให้เราเลือกเพลงที่เหมาะสมกับนักร้องคนนั้นได้
*middle C = C4*

3. Vocal Registers

หรือคือ ช่องเสียง วิธีการใช้เส้นเสียงเมื่อความถี่แตกต่างกัน
natural register คือ modal voice หรือ chest voice


สูงขึ้นมาอาจจะใช้ลมช่วยเป็น falsetto voice ของผู้ชาย
หรือ Head voice ของผู้หญิง

สูงมากๆจะเป็น whistle register

ต่ำๆจะมีเป็น vocal fry

การใช้ register ต่างๆจะทำให้สามารถออกเสียงได้ range ที่กว้างขึ้น และถ้าตรวจว่าตัวเองมี register แบบไหนที่โน้ตไหนก็ทำให้เราจัดการกับการร้องได้ดีขึ้น

4. Voice Type

Natural for male voice โดยธรรมชาติเสียงผู้ชายจะอยู่ในโทน

Bass = F2-F4
Baritone = A2-A4
Tenor = C3-C5
CounterTenor = เสียงผู้ชายที่เทียบเท่าผู้หญิง E3-E5

Natural for female voice เสียงผู้หญิงโดยธรรมชาติจะอยู่ในโทน

Alto = F3-F5
Mezz-Soprano = A3-A5
Soprano = C4-C6

นี่เป็นเพียงทั่วไป จริง ๆ อาจมีหลากหลายมากกว่านี้

5. Natural Acoustic and Reflection

สภาพของเสียงที่ออกสู่ด้านนอกแล้ว ผ่านอากาศ ผ่านการสะท้อนในสภาพแวดล้อม

เสียงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ค่อนข้างคงที่ประมาณ 1130 feet/sec หรือประมาณ 1.1 feet/ms

ซึ่งจะเกิดการสะท้อนไปมา ซึ่งจะทำให้เกิดเสียงต่างๆเข้ามาเช่น ambiance ซึ่งทำให้สภาพแวดล้อมมีผลต่อการ Vocal Recording มาก

6. Key

การเลือกนักร้องที่คีย์เสียงสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายตามต้องการทำให้ producer สามารถทำงานเพลงได้ดีขึ้น

เพราะสามารถปรับเปลี่ยนคีย์ตามต้องการ โดยคีย์นั้นจะต้องเป็นคีย์ที่ฟังสบายเวลานักร้องร้อง

7. Tempo

จังหวะมีผลต่อลักษณะของเพลง เช่น จังหวะเร็วจะทำให้มีความสนุกสนาน มีพลัง แต่ถ้าจะให้เสียงร้องมีความโดดเด่นก็อาจจะปรับให้ช้าลงเพื่อให้เล่นกับการร้องได้

ประมาณ 120 = เพลง dance

ประมาณ 60 = เพลงช้า ballad, power ballad, r&b ballad

80 - 120 = hip hop, rap

ควรทดลองปรับจังหวะดูว่าจังหวะไหนดีและเหมาะสม